Klip Mahithon
Quick Facts
Biography
ท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร (สกุลเดิม: บางยี่ขัน; 24 ธันวาคม พ.ศ. 2419 – 3 เมษายน พ.ศ. 2504) เป็นภรรยาของเจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์) และเป็นมารดาของท่านผู้หญิงดุษฎี มาลากุล ณ อยุธยา
เธอเป็นผู้รจนาตำราอาหารชื่อ หนังสือกับข้าวสอนลูกหลานของท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร ซึ่งถือเป็นตำราอาหารตำรับชาววังหนึ่งในสี่ตำรับ แต่ตำรับของท่านผู้หญิงกลีบมีลักษณะอันพิเศษ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากอาหารจีนที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในอาหารชาววังตำรับนี้
ประวัติ
ท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ปีชวด พ.ศ. 2419 หรือ วันที่ 24 ธันวาคม ที่ตำบลสำราญราษฎร์ เป็นธิดาของหมื่นนรารักษ์ (ปิ่น บางยี่ขัน) เจ้าของสวนแถบบางยี่ขัน ฝั่งธนบุรี ส่วนมารดาชื่อหุ่น (สกุลเดิม สนธิรัตน์)มีชื่อเมื่อแรกเกิดว่า กลีบจำปา แต่หลังจากแต่งงาน เจ้าพระยามหิธร ผู้เป็นสามีได้ตัดคำว่า จำปา ออกเหลือแต่กลีบเพราะว่าการมีชื่อยาวเกินกว่าสองพยางค์นั้นเป็นการทำเทียมเจ้านาย ซึ่งท่านผู้หญิงได้กล่าวด้วยตัวเองภายในงานวันเกิดฉลองอายุครบ 60 ปีเมื่อปี 2479
ท่านผู้หญิงเกิดและเติบโตในบ้านของเจ้าพระยารัตนาพิพิธ (สน สนธิรัตน์) ที่ตำบลสำราญราษฎร์ โดยมีเจ้าจอมพุ่ม (สนธิรัตน์) ในรัชกาลที่ 3 เป็นผู้อุปการะเลี้ยงดู ต่อมาเมื่อเจ้าจอมพุ่มถึงแก่อนิจกรรม ท่านผู้หญิงจึงได้รับการอุปการะจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจามรี ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาปุก (สนธิรัตน์) ในรัชกาลที่ 3
แต่หลังการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เจ้าจามรี ท่านผู้หญิงจึงตกอยู่ในการอุปการะของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐาสารี แต่ด้วยอัธยาศัยอันดีของท่านผู้หญิง เจ้าจอมมารดาท่านหนึ่งจึงมีดำริที่จะถวายตัวเป็นเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของผู้เป็นบิดา บิดาจึงมารับตัวและมอบให้นางคำ บางยี่ขัน ผู้เป็นย่าเลี้ยงดูแทน
ชีวิตส่วนตัว
ท่านผู้หญิงกลีบเป็นสตรีผู้ที่มีรูปโฉมอันงดงาม ประกอบกิริยามารยาทอันดี แม้จะอาศัยอยู่ในสวนร่วมกับย่า แต่ก็มีความรู้และมีความสุภาพกว่าชาวบ้านทั่วไป
ท่านผู้หญิงกลีบ ได้สมรสกับเจ้าพระยามหิธร (ลออ ไกรฤกษ์) ทั้งสองมีบุตรด้วยกันถึง 12 คน หนึ่งในนั้นคือ ท่านผู้หญิงดุษฎี มาลากุล ณ อยุธยา ภรรยาของหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
ชื่อของบุตรทั้งหมดสามีเป็นผู้ตั้งเอง ชื่อของบุตรห้าคนแรกนำมาจากราชทินนามเดิมของตนคือ จักร ปาณี ศรี ศิล วิสุทธิ์ ส่วนชื่อหลัง ๆ เช่น ดุษฎี มาจากชื่อ เหรียญดุษฎีมาลา เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดวงแรกที่สามีได้รับพระราชทาน
ท่านผู้หญิงกลีบ ได้ถึงแก่อนิจกรรมวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2504 และพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2504
ตำรับอาหาร
ท่านผู้หญิงกลีบมีความสามารถในการทำอาหาร และต้องการถ่ายทอดความรู้ดังกล่าวให้แก่ลูกหลาน จึงได้เขียนตำราอาหารขึ้น มีชื่อว่า หนังสือกับข้าวสอนลูกหลานของท่านผู้หญิงกลีบ มหิธร ซึ่งมีวัตถุประสงค์โดยตรงคือเพื่อถ่ายทอดสู่ลูกหลาน โดยตำรับอาหารดังกล่าวถือเป็นมรดกตกทอดของสกุลไกรฤกษ์และสกุลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
อาหารในตำราของท่านผู้หญิงกลีบเป็นอาหารประเภทข้าวหลายชนิดที่มีกลิ่นอายของอาหารจีนที่ถูกปรับใช้เป็นอาหารไทยมากมายหลายชนิด เช่น ข้าวต้มกุ้ง. ข้าวต้มปลา, ข้าวต้มเนื้อไก่ (เซ่งจี๊ ตับเหล็ก), ข้าวผัดเต้าหู้ยี้ และข้าวผัดลูกหนำเลี๊ยบหรือหนำพ๊วย เป็นต้น ทั้งมีการบันทึกอาหารขึ้นชื่อประจำตระกูลไกรฤกษ์ คือ แกงบวน และนอกจากนี้ยังมีอาหารพิเศษ ที่ผสมผสานความเป็นไทย, จีน และแขกด้วยกัน คือ แกงจีจ๋วน ซึ่งเป็นแกงกะทิใส่ไก่มีเครื่องแกงแดง แต่ใส่โป๊ยกั๊กของจีน, ขมิ้นผงของแขก, ส้มซ่าของไทย และพริกหยวก
อย่างไรก็ตามตำรับอาหารของท่านผู้หญิงกลีบ ได้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของอาหารจีนในอาหารไทยที่ปรากฏในอาหารทั้งคาวและหวาน แต่อาหารตะวันตกก็มีอิทธิพลในตำราของท่านด้วยเช่นกันแม้จะไม่มากเท่าอิทธิพลของจีนก็ตาม ซึ่งอิทธิพลอาหารจีนถือเป็นอิทธิพลเฉพาะที่มาจากสายตระกูลไกรฤกษ์ที่สืบเชื้อสายมาแต่ประเทศจีน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2502 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
- พ.ศ. 2465 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายใน)
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
กลีบ มหิธร