peoplepill id: tharit-pengdit
TP
Thailand
2 views today
2 views this week
The basics

Quick Facts

Places
Birth
Age
67 years
The details (from wikipedia)

Biography

ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ อดีตคณะกรรมการสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนอดีตคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และ อดีตอัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานคณะกรรมการอัยการ

ประวัติ

ธาริต เกิดที่โรงพยาบาลคริสเตียน ในตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาทเมื่อแรกเกิดมีร่างกายไม่แข็งแรงนัก ต้องอยู่ในตู้อบที่โรงพยาบาลนานถึง 3 เดือน ผู้เป็นแม่จึงเดินทางด้วยเรือ ไปพบหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุงจังหวัดอุทัยธานี เพื่อขอให้ตั้งชื่อ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำจึงให้ชื่อว่า "เบญจ" (เป็นชื่อเดียวกับชื่อเล่นด้วย)เพื่อเป็นการแก้เคล็ดเนื่องจากพี่ของนายธาริตที่เกิดก่อนหน้านั้นถึง 4 ได้เสียชีวิตหมดตั้งแต่แรกคลอดเป็นหลานปู่ของ ร.อ.เจี๊ยบ เพ็งดิษฐ์นายทหารคนใกล้ชิดจอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งลาออกจากราชการและย้ายครอบครัวจากพระนครไปอยู่ที่จังหวัดชัยนาท หลังจอมพล ป.ถูกรัฐประหาร

สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจากนั้นเข้าศึกษาต่อในคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่น KU 37 แต่ด้วยความไม่ชอบและปรับตัวไม่ได้ กับระบบ "โซตัส" จึงลาออกไปสมัครเรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในปี 2521 จนสำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) และเนติบัณฑิตไทยรวมถึงนิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เมื่ออายุได้ 35 ปี จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นธาริต ตามหลักทักษาปกรณ์ตามความเชื่อของโหราศาสตร์ไทย โดยให้คำว่า ธ เป็นเดชนำหน้าชื่อ

  • ปี 2519 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
  • ปี 2524 ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
  • ปี 2526 เนติบัณฑิตไทย
  • ปี 2532 ปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การทำงาน

ก่อนรับราชการอัยการธาริตเป็นผู้ช่วยอาจารย์สอนกฎหมายจนกระทั่งได้พบกับคณิต ณ นครในฐานะอาจารย์พิเศษ จึงแนะนำให้ธาริตไปสอบอัยการหลังเรียนจบนิติศาสตร์มหาบัณฑิตและธาริตก็สอบได้เป็นอัยการ จนกระทั่งดร.ทักษิณ ชินวัตรได้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ได้ระดมนักกฎหมายหลายคน เช่น คณิต ณ นคร,เรวัติ ฉ่ำเฉลิม ร่วมก่อตั้งพรรคซึ่งในจำนวนนั้นมีธาริตอยู่ด้วยทำให้หลังจากที่พรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งธาริตจึงได้รับแต่งตั้งให้ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยทำงานกับพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองนายกรัฐมนตรีขณะเดียวกันนายธาริตยังเป็นเป็นคณะที่ปรึกษาของพันศักดิ์ วิญญรัตน์อีกด้วย

ภายหลังจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขาดำรงตำแหน่งเลขาธิการของหน่วยงานนี้เป็นคนแรก

เมื่อมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรธาริตได้โอนมาดำรงตำแหน่งรองอธิบดีและต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ จนกระทั่งได้รับแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแทน ทวี สอดส่อง ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ธาริต เป็นหนึ่งในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อครั้งมีการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี พ.ศ. 2553แต่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการด้านยุทธการ นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการดำเนินคดีทางการเมืองหลายคดี

ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เขารับคำร้องที่พรรคเพื่อไทยฟ้องร้องถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

ในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ได้มีประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง มติคณะกรรมการคดีพิเศษให้คดีความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษโดยมีมติ ว่ารับกรณี สุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาสืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นคดีพิเศษ

ในระหว่างเหตุการณ์วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 ธาริตเป็นกรรมการในศูนย์รักษาความสงบในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและผู้ช่วยเลขานุการในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

ธาริตได้รับการต่ออายุราชการภายหลังเกษียณอายุราชการในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรณ ขณะนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เนื่องจาก ถวิล เปลี่ยนศรีถูกโยกย้ายเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเนื่องจากเป็นกรรมการและเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)แต่ธาริต เพ็งดิษฐ์ กลับได้ต่ออายุราชการทั้ง ๆ ที่เป็นกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่นเดียวกัน ในปี พ.ศ. 2557 หลังการยึดอำนาจการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

และยังได้รับการแต่งตั้งเป็น เลขานุการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในช่วง ระหว่างวันที่ 19 มีนาคม 2557 ถึง 19 พฤษภาคม 2557

ภายหลังการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เขาถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ ในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ

ข้อวิจารณ์

  • กรณีที่ไม่สั่งฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ กรณีปราศัยเมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554 เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเนื่องจากข้อความที่นายจตุพรกล่าวปราศัยนั้น ทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
  • กรณีคดีเงินบริจาคน้ำท่วม กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยออกหนังสือถึงประชาชนผู้บริจาคน้ำท่วมผ่านทางพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ พ.ศ. 2553 โดยขอให้ไปชี้แจงต่อดีเอสไอ ว่าการบริจาคดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 หรือไม่ถูกวิจารณ์กว่าเป็นการกระทำเกินกว่าอำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
  • กรณีรับเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ายื่นหนังสือให้เอาผิดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
  • กรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเขาทำหนังสือแจ้งว่าไม่พบการกระทำผิดและทำหนังสือยกเลิกการอายัดทรัพย์สิน ลงวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 แต่ภายหลัง รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 กรมสอบสวนคดีพิเศษมีการแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลอาทิ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร รวมถึงออกหมายจับ พระธัมมชโย

คดีความ

ในปี พ.ศ. 2558 นายธาริตถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สั่งอายัดทรัพย์ จำนวน 90,260,687 บาทมีการแจ้งข้อกล่าวหาเขาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 นอกจากนั้นยังมีคดีความอีก 26 คดีส่วนใหญ่เป็นคดีอาญาฐาน หมิ่นประมาท และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ในปี พ.ศ. 2559 นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีกล่าวหาว่านายธาริตร่ำรวยผิดปกติ พร้อมด้วยนายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงมติที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ 7:0 ชี้มูลความผิดนายธาริตในคดีดังกล่าว พร้อมส่งสำนวนต่ออัยการสูงสุดให้ยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจให้พิพากษาให้ทรัพย์สินของนายธาริต คู่สมรส และผู้เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 346,652,588 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติว่า สมควรลงโทษ นายธาริต โดยการ ลงโทษไล่ออกจากราชการ

ในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560 ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งจำคุก 2 ปี นาย ธาริต แต่ลดโทษเป็นรอลงอาญา 2 ปีกรณี ย้าย พ.อ.ปิยะวัฒน์ กิ่งเกตุ โดยมิชอบ

ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.310/2556 ให้รับฟ้องกรณี นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ฟ้อง นายธาริต ว่าฟ้องร้องเขาโดยไม่สุจริต เจตนากลั่นแกล้ง ในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560 ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.812/2559 ที่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย และอดีต ส.ว. กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ ให้พนักงานจดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และหมิ่นประมาท

ในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561 นาย ธาริต เพ็งดิษฐ์ จำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในคดี อ.495/2556

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

ธาริต เพ็งดิษฐ์ เคยได้รับและถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสูงสุดตระกูลต่างๆ ดังนี้

  • พ.ศ. 2556 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
  • พ.ศ. 2551 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
  • พ.ศ. 2558 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)

อ้างอิง

The contents of this page are sourced from Wikipedia article. The contents are available under the CC BY-SA 4.0 license.
Lists
Tharit Pengdit is in following lists
comments so far.
Comments
From our partners
Sponsored
Credits
References and sources
Tharit Pengdit
arrow-left arrow-right instagram whatsapp myspace quora soundcloud spotify tumblr vk website youtube pandora tunein iheart itunes